พระนาคปรกวัดไผ่ล้อม ลป.ทิมเศกหายากสุด


พระนาคปรกวัดไผ่ล้อม ลป.ทิมเศกหายากสุด
พระนาคปรกวัดไผ่ล้อม ลป.ทิมเศกหายากสุด


 
 ชื่อรายการ :   พระนาคปรกวัดไผ่ล้อม ลป.ทิมเศกหายากสุด
 รายละเอียด :
      เนื่องจากวัดไผ่ล้อมเป็นวัดเก่าแก่ มีอายุการสร้างนานประมาณร้อยกว่าปีแล้ว พระอุโบสถจึงชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ดังนั้น ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ท่านพระอาจารย์พูน จึงมีดำริที่จะบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ให้มั่นคงถาวรสืบไป แต่ในการบูรณะครั้งนี้ จำเป็นจะต้องใช้ปัจจัยมาก หลังจากที่ได้หารือกับคณะกรรมการวัดแล้ว ทุกท่านมีมติให้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น เพื่อเปิดให้สาธุชนทำบุญบูชากัน พระอาจารย์พูนก็เห็นพ้องด้วย จึงสั่งให้คณะกรรมการวัดทุกท่าน แยกย้ายกันไปเสาะหามวลสารศักดิ์สิทธิ์มาเป็นส่วนผสม สำหรับแบบพิมพ์ ก็ได้มอบหมายให้นายสายพิณ ยอดยาดี เป็นผู้แกะ นายสายพิณผู้นี้ต่อมาได้แกะแม่พิมพ์พระขุนแผนถวายให้หลวงปู่ทิม               การเสาะหามวลสารศักดิ์สิทธิ์นั้น ใช้เวลานานหลายเดือนจึงครบถ้วนตามความประสงค์ ซึ่งประกอบไปด้วยผงพุทธคุณจากพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ผงว่าน ๑๐๘ ผงเกสร ๑๐๘ ผงขี้ธูป และน้ำพุทธมนต์ ๑๐๘ วัด ผงหลวงพ่อวงศ์ รวมทั้งผงยอดมณฑปวัดบ้านค่าย ผงเก่า และสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ผงหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ ผงวัดระฆัง ซึ่งหลวงปู่นาคมอบให้ ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ผงจากพระชำรุดแตกหักมากมาย รวมทั้ง มวลสารศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งพระอาจารย์พูนเสาะหามากกว่าห้าปี                มวลสารศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดได้ถูกนำมารวมกัน และบรรจุได้ถึงสามลังใหญ่ จากนั้นพระอาจารย์พูนได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไปหาหลวงปู่ทิม ขอให้ท่านช่วยปลุกเสกให้ หลวงปู่ทิมเอามือสัมผัสมวลสารในกล่องสักครู่ แล้วท่านก็ได้กล่าวขึ้นว่า อันที่จริงมวลสารศักดิ์สิทธิ์มาก แต่เมื่อท่านพูนอุตส่าห์นำมา ฉันก็จะช่วยปลุกเสกให้สัก ๙ คืน ครั้นถึงวันครบกำหนด พระอาจารย์พูนจึงมาขอรับมวลสารกลับ หลังจากที่พระอาจารย์พูนนั่งสนทนากับหลวงปู่ทิมได้สักพัก หลวงปู่ทิมก็ลุกเดินเข้าไปในห้อง และออกมาพร้อมกับถือกระป๋องนมเก่าๆ ใบหนึ่ง จากนั้นท่านก็ยื่นส่งให้พระอาจารย์พูน แล้วกล่าวว่า ผงวิเศษในกระป๋องคือ ผงจินดามณีที่ฉันทำไว้นานแล้ว เมื่อท่านพูนมีเจตนาแน่วแน่ที่จะทำพระสร้างโบสถ์ ฉันก็ขอมอบผงวิเศษนี้ให้ด้วยความเต็มใจ                                 หลังจากที่ทุกสิ่งพร้อมสรรพแล้ว การจัดสร้างวัตถุมงคลก็ได้ดำเนินขึ้น โดยพระอาจารย์พูนได้กะเกณฑ์พระเณรมาช่วยกันกดพิมพ์ ขณะที่กดพิมพ์นั้น พระสงฆ์ผู้ทรงคุณ ๙ รูป ก็จะสวดพระชัยมงคลคาถากำกับไปด้วย และเนื่องจากเป็นการจัดสร้างกันเองภายในวัด พระเณรก็ขาดความชำนาญในการกดพิมพ์ พระผงที่สร้างขึ้นจึงมีทั้งสวยมาก สวยน้อย คละเคล้ากันไป แต่เท่าที่ได้เห็นม าส่วนมากอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นส่วนมาก                               เมื่อการจัดสร้างได้แล้วเสร็จ พระอาจารย์พูนก็ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกขึ้นในวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๑๓ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ หรือที่เรียกกันว่า "วันเสาร์ห้า" นับแต่โบราณเชื่อถือกันว่า วันเสาร์ห้านี้เป็นวันมหาอุดมฤกษ์ หากกระทำพิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล ก็จะยิ่งเพิ่มพูนกฤตยาคมให้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ พระอาจารย์พูนได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และแก่กล้าทางพระเวทจำนวน ๙ รูป มานั่งปรกปลุกเสก ดังมีรายนามต่อไปนี้                                                                                                                     ๑. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ประธานจุดเทียนชัย และนั่งปรกปลุกเสก                                                   ๒. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี                                                                                                         ๓. หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก จ.ระยอง                                                                                                     ๔. หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง                                                                                                              ๕. หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง                                                                                                              ๖. หลวงพ่อตง วัดเพ จ.ระยอง                                                                                                                      ๗. พระสมุห์จำปี วัดไผ่ล้อม จ.ระยอง                                                                                                            ๘. หลวงพ่อลบ วัดประดู่ในทรงธรรม จ.อยุธยา                                                                                              ๙. หลวงพ่อชาย วัดแม่นางปลื้ม จ.อยุธยา                                                                                                       พิธีพุทธาภิเษกได้เริ่มดำเนินขึ้น ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. จนถึง ๒๒.๐๐ น. จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นพระเกจิอาจารย์ทั้งหลายจึงได้แยกย้ายกันกลับวัด คงเหลือแต่หลวงปู่ทิม เพียงองค์เดียวเท่านั้น ที่มิได้กลับ หลังจากท่านนั่งพักผ่อนอยู่ไม่นาน หลวงปู่ทิมก็ก้าวขึ้นไปนั่งบนธรรมาสน์ แล้วเริ่มนั่งปรกอย่างสงบนิ่งไม่ไหวติงน่าศรัทธามาก หลังจากที่ท่านได้ปลุกเสกแผ่พลังจิตสู่กองวัตถุมงคล พระผง และเหรียญเสาร์ห้าได้เพียงครู่ ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ก็ได้บังเกิดขึ้นประจักษ์แก่สายตาของผู้คนจำนวนมาก กล่าวคือ ไฟฟ้าในพระอุโบสถทุกดวง ติดๆ ดับๆ อยู่ตลอดเวลา ผู้ที่นั่งอยู่ใกล้กองวัตถุมงคลยืนยันว่า ได้ยินเสียงดังขลุกๆ เป็นระยะ และที่พระอาจารย์พูนแปลกใจก็คือ สายสิญจน์ที่ถืออยู่นั่นประเดี๋ยวก็เย็น ประเดี๋ยวก็ร้อนสลับกัน แสดงว่าในขณะนั้น หลวงปู่ทิมกำลังแผ่พลังจิตเข้าสู่วัตถุมงคลแบบครบเครื่อง คือ มีทั้งในด้านเมตตาโชคลาภ ตลอดจนในด้านแคล้วคลาดคงกระพัน จนกระทั่งเวลา ๐๒.๐๐ น. ของวันใหม่ หลวงปู่ทิมจึงได้ลืมตา เสร็จสิ้นการปลุกเสก                                  ก่อนที่หลวงปู่ทิมจะกลับวัด พระอาจารย์พูนได้เข้าไปกราบ แล้วพูดกับ่ท่านว่า จะนำวัตถุมงคลทั้งหมดไปให้ช่วยปลุกเสกเพิ่มเติมอีกสัก ๙ คืน หลวงปู่ทิมยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วกล่าวขึ้นว่า "ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์ห้า ปลุกเสกแค่คืนเดียวก็ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว วัตถุมงคลที่อยู่ในพิธีนี้ทั้งหมดมีพุทธคุณสูงเยี่ยมทุกด้าน ใช้ได้ตามจิตอธิษฐาน ขณะปลุกเสก ฉันนิมิตเห็นเป็นแสงฉัพพรรณรังสีสว่างไสวงดงาม คราวนี้ท่านพูนสร้างโบสถ์สำเร็จแน่ ต่อไปพระนี้จะมีชื่อเสียง และหายาก"                                                                                   ในยุคสมัยปี ๒๕๑๓ ฐานทัพทหารอเมริกันที่อู่ตะเภาโด่งดังมาก มีทหารจีไออยู่ประจำการมากมาย สาเหตุที่ทหารฝรั่งจีไอเลื่อมใสพระผงเสาร์ห้านั้น ก็เพราะคนงานไทยหลายรายทราบข่าวว่าทางวัดไผ่ล้อม จัดสร้างวัตถุมงคล ก็เลยเดินทางมาบูชากัน แล้วนำไปทดสอบพุทธคุณทันที ด้วยการจ่อยิง ในระหว่างการทดลองได้มีทหารจีไอหลายรายยืนชมอยู่ด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ของพระผงเสาร์ห้าก็ได้แสดงอานุภาพให้เขาเหล่านั้นประจักษ์แก่สายตา เพราะยิงกี่นัดๆ ก็ไม่ออก ข่าวคราวความศักดิ์สิทธิ์ของพระผงเสาร์ห้า ก็ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง เพียงครู่เดียวก็รู้กันทั่วฐานทัพ ดังนั้น เหล่าทหารจีไอจึงแห่กันมาที่วัดไผ่ล้อมเต็มคันรถบรรทุก เมื่อมาถึงก็ต่างยื้อแย่งเช่าบูชาพระผงเสาร์ห้ากันคนละหลายๆ องค์ เฉพาะปัจจัยที่ได้จากทหารจีไอนั้น สามารถนำมาสร้างกุฏิได้ถึง ๖ หลัง ซึ่งหากท่านมาที่วัดไผ่ล้อมก็จะเห็นกุฏิทั้ง ๖ หลังนี้อย่างเด่นชัด และด้วยความศรัทธาของเหล่าทหารจีไอ ใช่จะมีเพียงเท่านั้น ต่อมาพวกเขาก็ได้บรรทุกวัสดุก่อสร้างต่างๆ เช่น อิฐ หิน ปูน ทราย ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือในการก่อสร้างมาถวายพระอาจารย์พูนอย่างครบครัน                                   "คราวนี้ท่านพูนสร้างโบสถ์สำเร็จแน่" คำกล่าวของหลวงปู่ทิมประโยคนี้    ต่อมาก็เป็นความจริงในชั่วระยะเวลาไม่นานนัก เพราะตั้งแต่เปิดให้มีการเช่าบูชาพระผง และเหรียญเสาร์ห้า ปรากฏว่าในวันหนึ่งจะมีสาธุชนจำนวนมากมาเช่าบูชากันไป คนละหลายๆ องค์ จนรวมปัจจัยได้ถึงสี่แสนบาท ดังนั้น การก่อสร้างอุโบสถจึงสามารถดำเนินขึ้น จนแล้วเสร็จอย่างรวดเร็วโดยไม่ติดขัดในด้านปัจจัยเลย ให้บูชา =4,000บาท
 ราคา :   โทร.ถามครับ
 
 ร้าน :   เชียงแสนอาร์ต  
 เบอร์โทรติดต่อ :   0833239061
 E-mail :   Chiangsaenart@hotmail.co.th

 วันที่อัพเดตข้อมูลล่าสุด :   23 ก.ย. 2559 18:11:40