เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ ลพ.หนุนวัดพุทธโมกพลาราม


เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ ลพ.หนุนวัดพุทธโมกพลาราม
เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ ลพ.หนุนวัดพุทธโมกพลาราม
เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ ลพ.หนุนวัดพุทธโมกพลาราม
เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ ลพ.หนุนวัดพุทธโมกพลาราม
เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ ลพ.หนุนวัดพุทธโมกพลาราม


 
 ชื่อรายการ :   เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ ลพ.หนุนวัดพุทธโมกพลาราม
 รายละเอียด :
เหรียญพญาเต่าเรือน พระสิวลีลังกาวงศ์ (พระสิวลีปางจกบาตร) หลวงพ่อหนุนวัดพุทธโมกพลาราม จ.สกลนคร ปี 2562

เกิดเหตุอัศจรรย์ตอนเริ่มเสก เมฆเริ่มตั้งเค้า ขณะเสกไฟดับ ฟ้าคำราม เสกเสร็จพระขึ้นชยันโตฯ ฝนตกทันทีเป็นนิมิตรหมายมงคลแห่งความอุดมสมบูรณ์
...............................  
เรื่องของคาถาพญาเต่าเรือนมี ๓ อุปเท่ห์ด้วยกัน
๑.ช่วยให้มีชีวิตรอดปลอดภัย
๒.ช่วยให้ร่ำรวย
๓. คนไทยเอามาตีความเองจากชื่อพญาเต่าเรือน คำว่าเรือนที่หมายถึงบ้าน ที่พญาเต่าตัวใหญ่เท่าบ้าน มาเปลี่ยนเป็น ‘เลือน’ ที่ภาษาไทยแปลว่า จืดจาง จางหายไป เขาก็เลยใช้คาถาพญาเต่าเรือนในการภาวนา เพื่อช่วยแก้ไขเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี

         วิธีอาราธนาให้พร้อมคาถาภาวนาหนุนพญาเต่าเรือนทุกชนิด  โดยการตั้งนะโมสามจบและสวดบูชาระลึกถึง พระพุทธคุณ  พระธรรม  พระสงฆ์  บิดามารดา  ครูบาอาจารย์  และเจ้าของพญาเต่าเรือนขอบารมีมาช่วยอำนวยพรให้ แคล้วคลาดจากอันตรายจากนั้นมีภาวนาว่า

“นาสังสิโม  สิโมนาสัง  โมนาสังสิ  สังสิโมนา”
 
         เมื่อจะเข้าหาเจ้านายหรือจะให้มีเมตตาลืมความโกรธไปชั่วขณะ  ก็ให้อารธนาพญาเต่าเรือน ที่ติดตัวแล้วภาวนาในใจทุกขณะจิต  เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่จะติดต่อด้วยให้เพียงหัวใจกลับหน้ากลับหลังว่าดังนี้

“นาสังสิโม  สิโมนาสัง  ภะคะวาจิตตัง  นาสังสิโม”
........................................................................
          พระสีวลีจกบาตรปางนี้ เชื่อกันว่าบูชาแล้วจะได้รับโชคลาภสักการะอันอุดม เหมือนกับที่พระสีวลีได้ลาภสักการะฉันนั้น อนึ่งปางนี้เป็นที่นิยมในศรีลังกาด้วยเช่นกัน โดยจะบูชากันในรูปภาพพิมพ์พระสีวลีจกบาตรติดตามฝาบ้าน ว่ากันว่าชาวไทยได้แนวคิดการบูชาพระสีวลีปางจกบาตรจากภาพเคารพของศรีลังกา

คาถาบูชาพระสีวลี
นะโม (3 จบ)
สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขะเทวาภิปูโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ
อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลีเถระคุณัง เอตัง โสตถิลาภัง ภะวันตุ เม

ใครก็ตามที่ได้บูชาพระสีวลี จะทำให้ประสบความสำเร็จด้านการเงิน มีเงินเข้ากระเป๋าแบบไม่ขาดสาย ส่วนใครที่คิดจะทำการค้า หรือมีอาชีพค้าขายนั้น ถ้าได้บูชาและท่องคาถาบูชาพระสีวลีทุกวันเช้าเย็นก็จะยิ่งทำให้กิจการรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา

***********************************************
พระสีวลี เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า และท่านยังที่ได้รับการยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะ หรือแปลว่า ผู้เป็นเลิศทางด้านมีลาภมาก เพราะไม่ว่าท่านจะทำอะไร หรือไปที่ไหน ก็มักจะเกิดลาภกับท่านอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อเสียงของพระสีวลี โด่งดังกลายเป็นรู้จักและศรัทธาของผู้คนเป็นจำนวนมาก และไม่ใช่เพียงแค่คนไทยเท่านั้นยังมีชาวต่างชาติที่ให้การบูชาและศรัทธาแก่พระสีวลี

***********************************************

คาถาอาราธนาวัตถุมงคลของหลวงพ่อหนุน สุวิชโย

"ตั้งนะโม ๓ จบ"
อุปัจเทยยะ อาจาริยะ สุวิชโย วิสุทธิเทวา ประสิทธิเม มหาพรหมมา มหาเทวา รักขันตุ สัพพะทา"

วัตถุมงคลของท่าน อธิษฐานขอได้ทุกเรื่องที่เราปรารถนา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ประวัติ พระครูวิชัยสารคุณ หรือหลวงพ่อหนุน พระคณาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสกลนคร วัดพุทธโมกพลาราม
ปัจจุบันสิริอายุ 66 ปี ตามประวัติ ท่านเกิดเมื่อวัน ศุกร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 7 ปี มะโรง วันที่ 6 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2495 (วันที่ 2 เดือน กันยายน พ.ศ. 2495) เป็นวันที่ออกใบเกิด บ้านเลขที่ 37 หมู่ 2 บ.นาเดื่อ ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ท่านเป็นบุตรคนที่ 4 ของคุณพ่อโค้ง คุณแม่รอน นามสกุล วิชัยยา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียว 8 คน มีผู้ชาย 3 คน มีผู้หญิง 5 คน

เมื่ออายุ 27 ปี วันที่ 25 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2522 ได้เข้าบรรพชาอุปสมบท ณ พัทสีมา วัดหนองหญ้าปล้อง ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ. เพชรบุรี โดยมี พระครูประภาสวชิรธรรม วัดหองหญ้าปล้อง ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการ หมี วัดหองหญ้าปล้อง ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา “สุวิชโย”

หลังบวชแล้ว ท่านได้ไปเรียนพระกรรมฐานกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ท่านย้ายมาอยู่ที่วัดนาเดื่อ ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 24 เดือน เมษายน พ.ศ. 2523 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดนาเดื่อ เมื่อวันที่ 6 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2527 ได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมเป็นพระใบฎีกา พ.ศ.2535 ได้รับเลื่อนจากพระใบฏีกาเป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท เป็นพระครูวิชัยสารคุณ พ.ศ.2545 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลนาแก้ว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ได้รับเลื่อนจากพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท พ.ศ.2552 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธโมกพลาราม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2559 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธโมกพลารามและเจ้าคณะตำบลนาแก้ว


--------------------------
หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท " ท่านได้กล่าวถึง...หลวงพ่อหนุน สุวิชโย

" #อาจารย์ เจ้าเก่งโพด " ธรรมดาซะที่ไหน❓
( "โพด"..  ภาษาอีสานแปลว่า เกิน หรือ เก่งมาก )

   ไม่ต้องมาเป็นลูกศิษย์เราดอก พระแบบนี้หาได้ยาก
 หาได้ที่ไหน ❓

  "  หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท " ท่านได้กล่าวถึง...
หลวงพ่อหนุน สุวิชโย พระอริยเจ้าแห่งวัด พุทธโมกข์

 ????..เมื่อคราวพิธี พุทธาภิเษก วัตถุมงคล รุ่นรับเสด็จ
ปี2562  ณ. วัดพุทธโมกข์ จังหวัด สกลนคร

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ประวัติ​พระอริยสงฆ์ดีศรีชาติไทย
พระครูวิชัยสารคุณ (หลวงพ่อหนุน สุวิชโย )วัดพุทธโมกพลาราม ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร
ท่านถูกเปรียบเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงสายอีสานผู้ค้นพบวิชา พุทโธระเบิด อันลือลั่น

แนวจริยาวัตรเเละปฏิปทาของครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อน้อมนำมาศึกษาข้อวัตรปฏิบัติมีดังนี้ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี หลวงปูพา พุทธสโร
วัดยอดลำธาร บ้านนาแก้ว จ.สกลนคร พระครูพิศาลสิกขยุติ (หลวงปู่เกษ) วัดยอดลำธาร บ้านนาเเก้ว จ.สกลนคร

◇พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบวันนี้ท่านกำลังสร้างเจดีย์ศิลาแลงเพื่อให้มีอายุถึงพ.ศ.5,000
ใครที่กำลังดวงตกป่วยหนักมีปัญหาชีวิตให้ไปร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ศิลาแลงกับหลวงพ่อหนุนชีวิตท่านจะเจริญดีขึ้นทันตาเห็น เพราะท่านมีอดีตชาติมีบุญญาบารมีมาก เคยเกิดเป็นท้าววิรูปักษ์ที่เปรียบประดุจกษัตริย์ปกครองเมืองบาดาลทั้งหมด ท่านจึงมีอิทธิวิชชาปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังอย่างยอดเยี่ยมองค์หนึ่งของประเทศไทย องค์พญานาคทุกแดนบาดาลจะมากราบนมัสการท่านอยู่เสมอเพราะอดีตชาติเคยเป็นกษัตริย์ปกครองนาคาทั้งหมด
ลูกศิษย์ท่านมักจะกล่าวว่าพระที่หลวงพ่อหนุนปลุกเสกนั้นป้องกันภัยพิบัติได้ทุกทิศและแม้แต่อาวุธนิวเคลียร์เลยทีเดียว
ท้าววิรูปักษ์คือ 1ใน4 ของท้าวมหาราชทั้ง4 ใครทำบุญกับท่านจะเจริญรุ่งเรืองโดยฉับพลัน...

++++++++++++++++++++++
#หลวงพ่อหนุนฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษี
ครูบาอาจารย์องค์สำคัญของหลวงพ่อหนุน
 #องค์หลวงพ่อฤาษี #วัดท่าซุง ????

ครั้งที่หลวงพ่อได้เดินธุดงค์ท่านได้เดินทางตามหาครูบาอาจารย์ พอกลับจากธุดงค์ท่านได้เดินทางแวะไปที่วัดท่าซุง

หลวงพ่อบอกว่าประมาณปี26ไม่งั้นก็27 ท่านได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง เมื่อฝากตัวเสร็จหลวงพ่อหนุนท่านก็ได้ไปฝึกวิชามโนมยิทธิ #ท่านก็สำเร็จตั้งแต่คืนแรกที่ฝึก

ครูฝึกถามอะไรภาพมันปรากฏหลวงพ่อก็ตอบได้อย่างน่าอัศจรรย์ตนครูฝึกหมดปัญหาที่จะถาม

พอตอนเช้า หลวงพ่อฤาษีท่านออกมารับแขก มีญาติโยมนั่งเต็มศาลา ทั้งพระสงฆ์ร่วมๆ30กว่ารูป หลังจากนั้นหลวงพ่อหนุนก็ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อฤาษีเป็นคนแรกก็ได้คุยกันพอสมควร

หลวงพ่อฤาษีท่านก็พูดใส่ไมค์ ท่านจึงได้บอกหลวงพ่อหนุนว่า #อยู่ไปหลายวันก็ได้นะไม่ต้องรีบกลับหรอก

ก็เป็นที่แปลกอีกอย่างหนึ่งทั้งๆที่หลวงพ่อหนุนยังไม่ได้บอกหลวงพ่อฤาษีว่าจะกลับแต่มีเพื่อนมาชวนหลวงพ่อหนุนกับท่านก็รับปากกับเพื่อนแล้วแต่ยังไม่ได้บอกหลวงพ่อฤาษีแต่หลวงพ่อฤาษีท่านกับพูดดักทางไว้ก่อน

เมื่อหลวงพ่อฤาษีพูดเช่นนั้นแล้วหลวงพ่อหนุนจึงเข้าไปพูดด้วยอีกครั้งจึงไปบอกว่าพอดีเพื่อนจะกลับครับผมมาด้วยกันคับ

หลวงพ่อฤาษีจึงบอกว่า #ถ้าอย่างงั้นก็ไม่เป็นไร ท่านจึงได้สั่งหลวงพ่อหนุนไว้ว่า #กลับไปก็ฝึกลูกศิษย์ลูกหาให้ปฏิบัติต่อนะเพื่อช่วยพระพุทธเจ้าเพื่อช่วยศาสนาของเรา

พอหลวงพ่อฤาษีพูดเช่นนั้นหลวงพ่อหนุนก็นั่งคิดว่า #เราจะมีประโยชน์ถึงขนาดนั้นหรือ หลังจากนั้นหลวงพ่อหนุนท่านก็ได้เดินทางเข้าวัดท่าซุงอยู่บ่อยครั้ง

เรื่องที่ลึกลับที่หลวงพ่อท่านไปหาคำตอบจากคณาจารย์องค์อื่นก็ไม่มีใครสามารถที่จะตอบหลวงพ่อได้นอกจากหลวงพ่อฤาษีองค์เดียวที่สามารถตอบปัญหาตอบความสงสัยของหลวงพ่อได้ทุกประเด็นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งแจ่มใส

เพราะเมื่อก่อนหลวงพ่อหนุนท่านปฏิบัติแบบเอาจริงเอาจัง 3 วัน 3 คืนก็มี 5 วัน 5 คืนก็มีทั้งเรียนวิชาคาถาอาคมมีคนมาทดสอบต่างๆนานาสารพัดที่จะเป็นไป นั่งจนไฟลุกท่วมตัวก็มี

หลวงพ่อท่านก็กลัวท่านจะเพี้ยนกว่าจะเป็นบ้าก็เลยเข้าไปหาหลวงพ่อฤาษีท่านจึงได้บอกว่า #มันเป็นฤทธิ์ในตัวแค่นี้ก็ขลังแล้ว จากนั้นเมื่อมีปัญหาอะไรหลวงพ่อก็จะเดินทางเข้าไปหาหลวงพ่อฤาษีหลวงพ่อฤาษีท่านก็จะให้คำตอบและให้แนวทางในการปฏิบัติหลวงพ่ออยู่ตลอดมา

ทุกครั้งที่หลวงพ่อเดินทางไปวัดท่าซุงหลวงพ่อหนุนท่านก็จะปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจังบางครั้งไม่หลับไม่นอนจนได้มีเรื่องราวเกิดขึ้น #ที่ว่ามีพระหนุ่มนั่งสมาธิอยู่ในต้นโพธิ์เวลา ตี1 ตี2 #ที่เขาเล่าลือว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ทีไหนได้เป็นหลวงพ่อที่แหละเพราะไปแต่ละครั้งหลวงพ่อก็จะเดินจงกรมบ้างนั่งสมาธิบ้างไม่หลับไม่นอน

ทุกครั้งที่ไปหลวงพ่อฤาษีท่านก็จะมีคำตอบให้ตลอดเพราะหลวงพ่อหนุนท่านไม่เคยศึกษาในเรื่องโลกทิพย์มาก่อนพอไปเจอหลวงพ่อฤาษีท่านจะเป็นคนในคำตอบในเรื่องโลกทิพย์และให้ความสำคัญในทุกประเด็นจนหลวงพ่อไม่มีความสงสัยเลย ????

ณ.เณร ไม่มอง  ด.เด็ก ต้องนิมนต์  ผู้เรียบเรียง


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความเป็นพระเหนือโลกของหลวงพ่อหนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกพลาราม จ.สกลนคร

    เอาเป็นว่าเรื่องที่จะเล่าต่อจากนี้คิดว่าหลายคนก็เคยรู้เคยได้ยินได้ฟังได้อ่านกันมาบ้างแล้ว แต่บางคนที่มาใหม่ที่ยังไม่รู้ก็ยังมีอีกมาก  เรื่องราวต่อจากนี้เป็นเรื่องที่ผมได้รับฟังมาจากหลวงพ่อด้วยตัวเองทั้งนั้น หากการถ่ายทอดเรื่องราวคลาดเคลื่อนไปก็ขอให้เป็นความผิดผมแต่เพียงผู้เดียวนะครับ

                           เริ่มเลยละกัน
     หลวงพ่อหนุนท่านมีครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายรูป อย่างเช่น หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง) หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย ฯลฯ นั้นคือครูบาอาจารย์ที่มีขันธ์ 5 ที่หลวงพ่อเคยร่ำเรียนด้วยมา แต่หลวงพ่อท่านบอกกับผม(สมัยผมยังเป็นพระ) ท่านบอกถ้าจะให้เก่งจริงต้องได้ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีขันธ์ 5 สอน

ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีขั้นธ์ 5 ของหลวงพ่อมีหลายองค์ อย่างองค์แรกก็พระมหาโมคคัลลานะผู้เป็นเอตทัคคะทางด้านฤทธิ์เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้าสมณะโคดม หลวงพ่อท่านเล่าว่า ท่านเคยเกิดร่วมตระกูลกับพระมหาโมคคัลลาหลายชาติ และคนในตระกูลไปพระนิพพานกันหมดแล้ว เหลือท่านเป็นองค์สุดท้าย พระโมคคัลลาถึงมาสอนท่านทางด้านฤทธิ์ (คิดเอาละกันครับว่าท่านจะมีฤทธิ์ขนาดไหน)

ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีขันธ์ 5 องค์ที่ 2 ของท่านคือ พระมหากัจจายนะ หลวงพ่อท่านเล่าว่า พระมหากัจจายนะท่านมาพยากรณ์และทำภาพให้ดูว่าต่อไป วัดพุทธโมกจะเป็นอย่างไร สิ่งปลูกสร้างอะไรอยู่ตรงไหน อะไรจะเกิดขึ้นในภายหน้าท่านมาทำภาพให้ดูหมด ท่านบอกทุกวันนี้คำพยากรณ์เป็นไปตามนั้นทั้งหมด แต่ยังมีอยู่อีกเรื่องที่ยังมาไม่ถึง คือ.…(ส่วนนี้ผมขอยังไม่เล่านะครับ ให้สงสัยกันไปก่อน เป็นเรื่องที่ไม่ควรเอามากล่าวอ้างครับ)

ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีขันธ์ 5 อีกองค์ของท่านคือ ท่านฤาษีลัดดา เป็นพระอนาคามีหรืออรหันตมรรค ท่านว่าท่านลัดดาจะเป็นพระอรหันต์ไปนิพพานก็ได้แต่ยังไม่ไปท่านยั้งตัวเองไว้ก่อน อยากอยู่เพื่อช่วยงานพระศาสนา (ทุกวันนี้ท่านยังอยู่เมืองบาดาลเป็นใหญ่กว่าใครๆเหล่าพญานาคทั้งหลายให้ความเคารพท่านมาก) หลวงพ่อท่านเล่าว่า ตอนท่านฤาษีลัดมาหาท่านครั้งแรก มาพร้อมกับแม่พระธรณี และเด็กพรหมกุมาร(ท่านบอกเด็กกุมารคนนี้เก่งมีฤทธิ์เยอะ)  ท่านบอกตอนมาแสงสว่างแสบตามาก มาประมาณว่าขอปวารณาช่วยเหลืองานหลวงพ่อ

ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีขันธ์ 5 อีกองค์ก็พระอินทราชเป็นพระอรหันต์ท่านคุมรักษาเขตป่าหิมพานต์อยู่  ตรงนี้ท่านเล่าให้ฟัง(ถ้าจำไม่ผิดนะ) มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อหนุน หลงเข้าไปในป่าหิมพานต์ แต่เทวดาเขาจำได้ว่าแสงที่คอนั้นเป็นแสงของหลวงพ่อหนุน เทวดาเลยพามาส่งออกจากป่าหิมพานต์  แสงที่คอในที่นี้คืออย่างนี้ครับ ลูกศิษย์คนนี้สมัยก่อนเคยเอาด้ายสายสิญจน์ในงานพุทธาภิเษกของหลวงพ่อมาทำเป็นสร้อยคล้องคอ นานๆไปด้ายก็ขาดหายไปแล้ว ในคอน่ะว่างเปล่า ไม่มีด้ายสายสิญจน์แล้ว แต่ด้วยความที่เคยมีด้ายคล้องคอ พุทธคุณยังคงอยู่ที่คอ เทวดาเห็นแสงที่คอ เทวดาเขารู้ว่าแสงแบบนี้คือแสงพุทธคุณของหลวงพ่อหนุน เทวดาเลยพามาส่งหลวงพ่อ  หลวงพ่อท่านบอกว่า ถึงแม้ออกจากป่ามาได้ก็สติไม่เหมือนเดิม ท่านต้องทำน้ำมนต์ให้อาบ แต่ก็เรียกสติคืนมาได้แค่ 70% ไม่ครบ100% เหมือนแต่ก่อน

ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีขันธ์ 5 อีกองค์ของท่านคือ พระสีวลี ที่เรารู้จักหรือชอบเรียกกันว่าพระสีวลีมหาลาภนั่นแหละครับ

ท่านบอกจริงๆแล้วครูบาอาจารย์ที่ไม่มีขันธ์ 5 ของท่านมีอีกเยอะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสอนท่าน

    หลวงพ่อหนุน ท่านเป็นพระที่ฤทธิ์มีอภิญญา ท่านสามารถรู้ความคิดคนอื่นได้ หรือทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า เจโตปริยญาณ ท่านรู้ภาษาสัตว์ รู้แม้กระทั่งในหินในดินมีของศักดิ์สิทธิ์อะไรอยู่ในนั้น  เพราะตอนที่ท่านสร้างพระเนื้อรวมแร่ ท่านพาผมกับพี่โต้งไปดูก้อนหินที่ท่านวางไว้ข้างๆกุฏิ ท่านบอกในสมัยโบราณพระอรหันต์บ้างพระปัจกพุทธเจ้าบ้าง เวลาท่านจะนิพพานบางองค์ท่านก็อธิษฐานให้กระดูกของท่านกระจายไปอยู่ในก้อนหิน เพราะไม่ต้องการทิ้งทั้งร่างเดี๋ยวภายภาคหน้าคนจะเหยียบย่ำเดินข้ามจะเป็นบาป ท่านเล่าแล้วก็ทุบหินให้ดูข้างใน ชี้ลักษณะให้ดูว่านี่กระดูกพระปัจเจกพุทธเจ้า  

เรื่องราวของหลวงพ่อจริงๆยังมีอะไรอีกเยอะแยะมากมายเล่ากันจริงๆ 3วัน 3 คืนก็ไม่หมด ยิ่งสมัยท่านยังออกธุดงค์ด้วยแล้ว ที่ไหนที่อันตรายที่คนอื่นเข้าไปไม่ได้ท่านไปได้สบายเฉยเลย ขนาดในถ้ำที่ไม่มีอากาศหายใจ พระธุดงค์เข้าไปตายกันไม่รู้จักกี่องค์ ท่านยังหายเข้าไปเป็นนานสองนาน จนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังบอกน่าจะเรียบร้อยไปอีกองค์แล้วแบบนี้  แต่พอหลวงพ่อเดินออกมาเจ้าหน้าที่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ท่านออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่อาจารย์แก้วตอนแรกก็เข้าไปด้วย แต่ต้องหามกันออกมาเพราะไม่มีอากาศหายใจ แต่หลวงพ่อหายไปหลายชั่วโมง คิดดูเอาท่านหายใจโดยวิธีไหน

       มาว่ากันด้วยการเสกพระของท่านบ้าง

ท่านบอกท่านใช้วิธีการเดียวกับหลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง โดยขึ้นไปอัญเชิญขอบารมีพระพุทธเจ้าที่แดนพระนิพพาน ท่านบอกท่านอัญเชิญพระพุทธเจ้าไม่รู้กี่แสนพระองค์ลงมาทำให้ ไม่ขลังให้รู้กันไป  มาถึงตรงนี้คงเข้าใจกันดีนะครับถ้าเป็นสายศิษย์วัดท่าซุง ถ้าพระพุทธเจ้าท่านเสด็จ พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ตามเสด็จ พระอรหัต์สาวกท่านก็ตามเสด็จตามแม้แต่พรหมเทวดานางฟ้าทั่วสากลพิภพก็ต้องตามเสด็จ วัตถุจะไม่ขลังศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง ขนาดน้ำมนต์เพียงหยดเดียวหลวงพ่อท่านบอกยังคุ้มครองไปได้ทั้งชีวิต (แม้แต่ด้ายสายสิญจน์เคยคล้องคอแต่ขาดไปนานแล้วยังมีพุทธคุณตามรักษา) แล้วถ้าเป็นพระเครื่องวัตถุมงคลที่ท่านสร้างเองจะเป็นอย่างไร คิดเอากันเองละกันครับ

ณ.เณร ไม่มอง  ด.เด็ก ต้องนิมนต์  ผู้เรียบเรียง
 ราคา :   599
 
 ร้าน :   พลังศรัทธา  
 เบอร์โทรติดต่อ :   0966644953
 E-mail :   PhlangSraththa@hotmail.com

 วันที่อัพเดตข้อมูลล่าสุด :   21 ต.ค. 2567 17:04:21