พระเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา พิมพ์กลาง


พระเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา พิมพ์กลาง
พระเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา พิมพ์กลาง
พระเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา พิมพ์กลาง


 
 ชื่อรายการ :   พระเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา พิมพ์กลาง
 รายละเอียด :
พระเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา สร้างประมาณปี 2519 พระเนื้อผงของหลวงปู่มีมวลสารมากมายที่สำคัญคือมีผงมหาจักรพรรดิซึ่งไม่มีใครเหมือน พระของหลวงปู่นำไปอธิษฐานใช้ได้หลายประการ ขอได้ทั้งเรื่องทางโลกและทางธรรม ให้หมั่นระลึกถึงหลวงปู่ดู่เสมอ ๆ หมั่นสวดไตรสรณคมน์ (พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ) หรือบทจักรพรรดิ ได้ทั้งนั้น พระเหนือพรหม ของหลวงปู่นำไปทำน้ำมนต์ได้ นำไปแช่ได้พระไม่ละลาย มีแต่จะแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้น นำไปกำไว้ในมือทำสมาธิก็ดีมากทำให้จิตสงบได้ง่ายขึ้น จะขอเรื่องการงานก็ได้เช่นกัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องไม่เกินกรรม… ในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงของหลวงปู่ดู่นั้น จักสังเกตุเห็นได้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านจะสร้างพระเครื่องไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติแก่บรรดาศิษย์เพื่อให้ระลึกเสมอว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ทรงประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้ ดังที่จะกล่าวในพระชุด “พระพุทธเจ้าเหนือพรหม” หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “พระพรหม” หลวงปู่ดู่ท่านได้หยิบยกพระพุทธตำนานตอนหนึ่งซึ่งเป็นพระตำนานที่อยู่ในบทสวดพระคาถาพาหุงบทหนึ่งว่า “ทุคคาหะทิฏฐิ ภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง* วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ” (* พรัหมัง อ่านว่า พรัมมัง) …พระคาถาบทพาหุงบทนี้ ตามพุทธตำนานได้กล่าวถึงตอนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ปราบทิฐิของท้าวผกาพรหมที่ว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์มากและมีความอมตะไม่ตาย จึงคิดท้าพระพุทธเจ้าให้มาลองอิทธิฤทธิ์กัน โดยการท้าลองครั้งนี้คือให้อีกฝ่ายซ่อนและอีกฝ่ายหา หากผู้ใดซ่อนและผู้หา หาไม่พบถือว่าชนะและฝ่ายแพ้จะต้องมาเป็นสาวกของฝ่ายชนะ…เริ่มจากฝ่ายท้าวผกาพรหมเป็นผู้ซ่อนก่อน ท้าวผกาพรหมแปลงกายเป็นธุลีเม็ดทรายหนึ่งเม็ดโดยซ่อนตนเองปะปนอยู่ในทะเลทราย ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ใช้ฌาณ ตรวจหาไม่นานก็ค้นพบท้าวผกาและชี้ถูกว่าท้าวผกาพรหมเป็นเม็ดทรายเม็ดไหนอย่างถูกต้องครั้งนี้ท้าวผกาพรหมจึงเป็นฝ่ายแพ้ พอถึงคราวพระพุทธเจ้าเป็นผู้ซ่อนบ้าง พระพุทธองค์ทรงย่อพระวรกายให้เล็กลงแล้วเสด็จขึ้นไปประทับซ่อนอยู่ในมวยผมบนเศียรของท้าวผกาพรหม ฝ่ายหาคือท้าวผกาพรหม ก็เริ่มตามหาพระพุทธเจ้าหายังไงก็หาไม่เจอ หาทั่วทั้ง 3 ภพ(ภพโลก ภพสวรรค์ ภพนรก)ก็หาไม่เจอหาไปสุดขอบแดนจักรวาลก็หาไม่เจอ ท้าวผกาพหรมจึงยอมแพ้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าท้าว ผกาพรหมลดทิฏฐิลงมากแล้ว พระพุทธองค์จึงคลายฤทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม และทรงแสดง พระธรรมเทศนาโปรดท้าวผกาพรหม จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน แต่ขณะนี้เป็นพระอนาคามีแล้ว จักเข้าถึงพระนิพพาน ในยุคพระศรีอริยเมตไตรย จากนั้นมาจึงมีพระนามเรียกขานกันว่า “พระพรหม” กุศโลบายในการสร้างพระ หลวงปู่ท่านไม่ได้ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ การที่ท่านสร้างหรืออนุญาตให้สร้างวัตถุมงคลก็เพราะเห็นประโยชน์ด้วยบุคคลจำนวนมากยังขาดที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ท่านเองมิได้จำกัดสิทธิ์อยู่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นคณะศิษย์ของท่านจึงมีกว้างขวางออกไปทั้งที่ใส่ใจในธรรมล้วน ๆ หรือที่ยังต้องอิงกับวัตถุมงคล ท่านเคยพูดว่า “ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าที่จะไปติดวัตถุอัปมงคล” ทั้งนี้ท่านย่อมใช้ดุลย์พินิจพิจารณาตามความเหมาะสม ตามความเหมาะสมควรแก่ผู้ที่ไปหาท่าน วัตถุมงคลพระบูชาต่าง ๆ ที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้แล้วนั้นปรากฏผลแก่ผู้บูชาในด้านต่าง ๆ เช่นแคล้วคลาด เป็นต้น นั่นก็เป็นเพียงผลพลอยได้ซึ่งเป็นประโยชน์ในทางโลก แต่ประโยชน์ที่ท่านผู้สร้างมุ่งหวังอย่างแท้จริงนั้นก็คือใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติภาวนา มีพุทธานุสติกรรมฐานเป็นต้น นอกจากนี้แล้วผู้ปฏิบัติยังได้อาศัยพลังจิตที่ท่านตั้งใจบรรจุไว้ในพระเครื่องช่วยน้อมนำและประคับประคองให้จิตรวมสงบได้เร็วขึ้น ตลอดถึงการใช้เป็นเครื่องสร้างเสริมกำลังใจ และระงับความหวาดวิตกขณะปฏิบัติอีกด้วย สิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์ทางธรรมซึ่งจะก่อให้เกิดพัฒนาการทางจิตของผู้ใช้ไปสู่การพึ่งพาตนเองได้ เพราะการที่เราได้อาศัย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ และสังฆัง สรณัง คัจฉามิ คือได้ยึดได้อาศัยเอาพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะในเบื้องต้นก่อน
 ราคา :   โชว์
 
 ร้าน :   พลศรีทองพระเครื่อง บู เชียงราย  
 เบอร์โทรติดต่อ :   0639695995
 E-mail :   adipong44@gmail.com

 วันที่อัพเดตข้อมูลล่าสุด :   14 มี.ค. 2567 22:00:53