เหรียญพระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี รุ่นแรก เนื้อทองจังโก๋ มีจาร (อะระหัง) ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ปี 2545

องค์นี้มีบัตรรับรองพระแท้จากบริษัทล้านนาอมูเลท

 

เหรียญพระมหาเจดีย์ 12 ราศี 12 นักษัตรสร้างปี 2545 บรรจุรูปพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองทรงเครื่องเป็นพระธรรมราชา ด้านหลังเป็นพระมหาเจดีย์ชเวดากองอันเป็นพระเจดีย์ประจำปีมะเมีย ล้อมรอบด้วยพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เป็นพระธาตุเจดีย์ประจำปีมะแม พระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน ประจำปีระกา พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ ประจำปีขาล พระมหาเจดีย์พุทธคยา อินเดีย ประจำปีมะเส็ง พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง ประจำปีฉลู พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน ประจำปีเถาะ พระธาตุจอมทอง จ.เชียงใหม่ ประจำปีชวด พระเจดีย์จุฬามณี สถิตอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ประจำปีจอ พระธาตุวัดพระสิงห์ประจำปีมะโรง และ พระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย ประจำปีกุน

 

ด้านหลังเป็นพระยันต์ชินบัญชรจารึกเป็นตัวเมืองผูกเป็นยันต์วิเศษโดยสมบูรณ์ มีนักษัตรประจำปีเกิดของแต่ละบุคคลสถิตประจำทิศส่งเสริมดวงชาตาหนุนไม่ให้ตกต่ำ ได้รับการขอร้องจากผู้สร้างคือคุณเนาว์ และคุณสุธันย์ให้หลวงปู่ครูอาจารย์ปลุกเสกอย่างเต็มที่โดยเน้นให้หนุนดวงผู้แขวนบูชาไม่ให้ตกต่ำไม่ให้อดอยากลำบากยากจนไม่ให้ตายด้วยภัยนานาประการ ครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกคร่าวๆก็มี หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม ครูบาคำ แห่งสุสานไตรลักษณ์ ครูบาเผือก วัดไชยสถาน หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญานเสน ฯลฯ

 

พุทธคุณ

เน้นไปทางเมตตามหานิยม เสริมดวง เสริมราศี

หนุนดวง แก้ดวงตก ช่วยพลักผันจากร้ายให้เป็นดี

ส่งเสริมดวงชะตา หน้าที่การงาน

ออกแบบและแกะบล็อคได้สวยงาม รวมถึงชนวนมวลสารเยอะมากในการสร้างพระรุ่นนี้

 

การจัดสร้างเหรียญพระมหาธาตุเจดีย์ ๑๒ ราศี ๑๒ นักษัตร ทุกเนื้อได้ดำเนินจัดสร้างตามพิธีกรรมที่พระโบราณาจารย์ถือปฏิบัติสืบต่อกันมา คือ ได้กระทำอย่างพิถีพิถันโดยสุดยอดพระอนุตรวราจารย์องค์สำคัญแห่งยุคดังนี้

1. หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน อยุธยา (ปีมะเมีย) 5/7/45

 

2.ครูบาอิน อินโท วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) เชียงใหม่ (ปีเถาะ) 6/7/45(เสกนาน 45 นาที)

 

3.ครูบาจันทร์ วัดสันเจดีย์ริมปิง จอมทอง เชียงใหม่ (ปีจอ) 6/7/45 (เกิดเสียงระเบิดดังตึง เมื่อปลุกเสกเสร็จ)

 

4.หลวงพ่อพระครูขันตยาภรณ์ สำนักสุสานไตรลักษณ์ แม่วาง สันป่าตอง เชียงใหม่ (ปีมะเมีย) 6/7/45 (เกิดลมแรงพัดกิ่งไม้หักโผงผาง ก่อนฝนกระหน่ำทันทีที่ท่านสักเคฯ เสร็จแล้วท่านก็ว่า พุทธปาฏิหาริย์ 108 ในพระพุทธศาสนา ท่านได้อัญเชิญมาทั้งหมด ที่ฝนตกนี้นับเป็นนิมิตดีมากนะ)

 

5.พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ แม่แตง เชียงใหม่ (ปีมะเส็ง) 6/7/45 (ท่านเมตตาบอกว่า การอธิษฐานจิตนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน เพียงแค่ช่วงหนึ่งของจิตที่สงบก็สำเร็จแล้ว แม้การส่งจิตไปเสกทางไกลนั้น ท่านก็ว่า มีผลเหมือนกับเอามาเสกต่อหน้านี้เหมือนกัน เพราะจิตนั้น ไม่อาจมีอะไรมากีดกั้นขัดขวางได้)

 

6.ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี สันป่าตอง เชียงใหม่ (ปีมะเมีย) 7/7/45 (ทันทีที่เสกเสร็จ ท่านก็ว่า “ใช้ได้แล้ว ดีอยู่แล้ว เอามาเสกอย่างนี้ ดีกว่าพุทธาภิเษกอีก พุทธาภิเษกสมัยนี้ ไม่เหมือนสมัยก่อน มีอะไรต่อมิอะไรยุ่งเหยิงวุ่นวาย เอามาอย่างนี้ดีแล้ว)

 

7.ครูบาตั๋น ปัญโญ สำนักปฏิบัติม่อนปู่อิ่น กิ่งอ.ดอยหล่อ เชียงใหม่ (ปีขาล) 7/7/45 (เป็นที่น่าอัศจรรย์ในความเหมือนรู้แห่งท่าน เพราะท่านออกมานั่งรอที่หน้ากุฏิ และทันทีที่เห็นรถวิ่งเข้ามา ก็รีบห่มจีวรมัดอกอย่างเรียบร้อยทันทีอย่างที่มักไม่ค่อยเห็นมาก่อน อีกทั้งยังเมตตาปลุกเสกให้อย่างดียิ่งโดยไม่มีข้อขัดข้องอะไรอย่างที่เกรงกันไว้อีกทั้ง ยังขอสายสิญจน์ไว้หนึ่งม้วนด้วย)

 

8. หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง อ.เมือง อุตรดิตถ์ (ปีขาล) 7/7/45 เมตตาอธิษฐานจิตในการสวดธรรมจักร,ทำวัตรเย็นอย่างวิเศษยิ่ง 9. นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก พระกริ่ง ยอดแก้ว ที่ระลึก 108 ปี วัดเกาะแก้วอรุณคาม จ.สระบุรี ซึ่งประกอบด้วยพระเกจิคณาจารย์องค์สำคัญมาร่วมพิธีมากมายกว่า 227 รูป โดยมีท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ สุวัฒนมหาเถระ) วัดสุวรรณาราม กทม (อายุ 96 ปี , ปีมะแม) ศิษย์ก้นกุฏิในสมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสสเทวมหาเถระ) วัดสุทัศน์เทพวราราม กทมเป็นองค์ประธานในการอธิษฐานจิตพุทธาภิเษก

 

นับเป็นพระเครื่องอีกรุ่นหนึ่งที่น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งครับ

..............................................................................

เหรียญพระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี เท่าที่ผมทราบ มีการสร้างมาแล้วทั้งหมด 3 รุ่น 3 แบบ และ มีการสร้างพระผงมาอีกหลายรุ่นหลายแบบ เช่นกัน โดยเฉพาะพระผง มีแบบที่มีออพชั่นหลากหลายมากกกก... คุณเนาว์ นรญาณ คนสร้างเองยังจำไม่ได้เลยว่ามีแบบไหน พิเศษยังไงบ้าง ต้องให้เวลาแก ค้นข้อมูลก่อนครับ

 

มาว่ากันเรื่องเหรียญ ผมลงภาพเปรียบเทียบให้ดูทั้งสามรุ่นเลยครับ...

 

1. เหรียญพระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี รุ่นแรก สร้างปี 45 โดยคุณเนาว์นรญาณ ร่วมกับ คุณสุธันย์ สุนทรเสวี ด้านหลัง เป็นยันต์ยอดไจยะเบงชร ล้อมรอบด้วย 12 นักษัตร ด้านหน้าพระพุทธรูป เป็นองค์พระมหามัยมุนี

 

2. เหรียญพระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี รุ่น 2 สร้างปี 46 - ต้นปี 47 (ปลุกเสกหลายคณาจารย์ แต่ไม่ทันหลวงปู่ครูบาอิน) โดยคุณสุธันย์ สุนทรเสวี ด้านหน้าพระพุทธรูป เปลี่ยนจากพระมหามัยมุนี เป็นพระแก้วมรกต ด้านหลัง เป็น พระคาถาไจยะเบงชร เต็มบท

 

3. เหรียญพระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี รุ่น 3 สร้างสร้างปี 2547 (ปลุกเสกหลายคณาจารย์ แต่ไม่ทันหลวงปู่ครูบาอิน) โดยคุณสุธันย์ สุนทรเสวี ด้านหน้าพระพุทธรูป เป็นพระแก้วมรกต เหมือนรุ่น 2 ด้านหลัง เป็นยันต์บารมี 30 ทัศ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย

 

สรุปว่า มีเพียงรุ่นแรกเท่านั้นที่ทันหลวงปู่ครูบาอิน และครูบาบุญปั๋น...

เหรียญนี้ปลุกเสก หลายคณาจารย์ภาคเหนือ เช่น ครูบาอิน วัดทุ่งปุย ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม ครูบาเผือก วัดไชยสถาน ครูบาคำ สุสานไตรลักษณ์ ครูบาตั๋น สำนักม่อนปู่อิน ... เป็นต้น และยังมี หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง อุตรดิตถ์ หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน อยุธยา ร่วมเสกด้วย... (ผมขอค้นเอกสารอีกนิดนึงครับ ไม่รู้เก็บไว้ไหน เดี๋ยวจะเอามาโพสให้ดูครับ)

 

ปัจจุบัน เหรียญรุ่นแรก ถูกเล่นหาเป็นพระของหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น...เพราะ????

 

1. เมื่อตอนสร้าง คุณเนาว์ นรญาณ ได้มอบเหรียญรุ่นนี้ จำนานหนึ่ง ไว้ที่วัดร้องขุ้ม เพื่อให้สาธุชนบูชา และจะได้นำเงินไปสมทบทุนสร้างศาลา วัดพระยาท 4 รอย อ.แม่ริม ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น... พระอาจารย์สิทธิพงษ์ จึงได้นำเอาเหรียญนี้มา จาร (อะระหัง) แล้วแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ลูกหาบูชา จึงทำให้มีเหรียญรุ่นนี้ออกจากวัดร้องขุ้มไปมาก คนก็เลยเข้าใจว่าเป็นเหรียญของครูบาบุญปั๋น

 

2. ในหนังสือที่ระลึกพิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาบุญปั๋น (ธัมมปัญญานุสรณ์) ด้านหลังของหนังสือ จะมีประมวลภาพวัตถุมงคลของครูบาบุญปั๋น และมีภาพเหรียญรุ่นนี้อยู่ด้วย

 

นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดคนจึงเล่นเหรียญนี้ เป็นเหรียญของครูบาบุญปั๋น ทั้งๆ ที่เสกหลายครูบาอาจารย์ แต่ไม่ว่าจะเล่นเป็นเหรียญของใคร ผมว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญที่สวยมากเหรียญหนึ่ง แล้วก็มีความหมายสำหรับคนเหนือ ที่เชื่อในเรื่องพระธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดครับ....ขอบคุณข้อมูลจากคุณ (wannabexcite)ซึ่งได้ลงข้อมูลไว้ที่เว็บพลังจิต 

 

.............................................................................................

๏ อมตะมหาเถราจารย์

 

“พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า

 

“ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

 

“ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ (ป่าช้าศาลาดำ) ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

 

“จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี

 

“ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

 

“หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

 

“ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ